โรคความดันโลหิตสูง เป็นภาวะที่มีแรงดันของเลือดในหลอดเลือดแดงสูงเกินไป ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต ความดันโลหิตที่สูงเกินไปอาจทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นในการสูบฉีดเลือด หากไม่ได้รับการดูแลและควบคุมอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาวได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตประจำวันเป็นวิธีสำคัญในการควบคุมความดันโลหิตให้สมดุล

โรคความดันโลหิตสูงคืออะไร?

ความดันโลหิตสูง เป็นภาวะที่ความดันเลือดในหลอดเลือดแดงมีระดับสูงกว่าปกติ โดยมีการวัดค่าความดันในสองค่า คือ ความดันตัวบน (Systolic pressure) ซึ่งเป็นแรงดันเลือดเมื่อหัวใจบีบตัว และ ความดันตัวล่าง (Diastolic pressure) ซึ่งเป็นแรงดันเลือดเมื่อหัวใจคลายตัว ความดันโลหิตสูงที่คงอยู่นานจะทำให้หัวใจและหลอดเลือดเสี่ยงต่อความเสียหาย

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของความดันโลหิตสูง

  • กรรมพันธุ์ ประวัติครอบครัวมีโรคความดันโลหิตสูง
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต การบริโภคเกลือสูง การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการขาดการออกกำลังกาย
  • อายุ ความดันโลหิตมักเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

อาหารที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นวิธีที่สำคัญในการควบคุมความดันโลหิตให้สมดุล การเลือกอาหารที่มีประโยชน์และลดปริมาณเกลือเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาหารที่ช่วยลดความดันโลหิต

  • ผักและผลไม้ ผักใบเขียว ผลไม้ เช่น กล้วย อะโวคาโด และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยปรับสมดุลของเกลือและลดความดันโลหิต
  • ธัญพืชเต็มเมล็ด ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีท และข้าวกล้องเป็นแหล่งของไฟเบอร์ที่ช่วยลดความดันโลหิตและลดคอเลสเตอรอลในเลือด
  • ปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน ที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบและลดความดันโลหิต

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยว เนื่องจากการบริโภคเกลือมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
  • อาหารทอดและอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวที่พบในอาหารทอด ขนมอบ และอาหารฟาสต์ฟู้ดทำให้เกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด และทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น

วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมความดันโลหิต

นอกจากการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารแล้ว การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การควบคุมความดันโลหิตให้คงที่ควรประกอบไปด้วยการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกาย เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การเดินเร็ว วิ่งเบาๆ หรือปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน จะช่วยให้หัวใจแข็งแรงและลดความดันโลหิตได้

การลดความเครียด

ความเครียด มีผลโดยตรงต่อการเพิ่มระดับความดันโลหิต การฝึกผ่อนคลาย เช่น การนั่งสมาธิ การหายใจลึกๆ หรือการทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น การอ่านหนังสือหรือการฟังเพลง สามารถช่วยให้ความดันโลหิตลดลงได้

การควบคุมน้ำหนักและเลิกสูบบุหรี่

การควบคุมน้ำหนัก เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต น้ำหนักที่เกินมาตรฐานมักทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น การลดน้ำหนักแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้การเลิกสูบบุหรี่ยังช่วยให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ

การตรวจสุขภาพและการใช้ยาในการควบคุมความดันโลหิต

การควบคุมความดันโลหิตควรเริ่มจากการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อติดตามความดันโลหิตอย่างต่อเนื่อง การปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพและการใช้ยาที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญ

การตรวจวัดความดันโลหิต

การตรวจวัดความดันโลหิตควรทำเป็นประจำ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การบริโภคเกลือสูง

การใช้ยาในการควบคุมความดันโลหิต

หากความดันโลหิตของคุณยังคงสูงแม้จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาในการควบคุมความดันโลหิต การใช้ยาควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด